ขนมฝอย หรือ ขนมหันตรา

จัดทำโดย หนุมาน, ขุนวิเสทเลือดเย็น, ฐาปกร เลิศวิริยะวิทย์ (เชฟกร)
Khanohm faawy or Khanohm handtraa - A Forgotten Thai Dessert and Snack ขนมฝอย หรือ ขนมหันตรา

อนุสนธิจากตำนานแกงมัสมั่น ที่ Thaifoodmaster ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ในบริบทหนึ่งกล่าวถึงหมายรับสั่งของพระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกที่ให้ พระยาจุฬาราชมนตรี ผู้นำมุสลิม จัดทำอาหารเลี้ยงพระและผู้คน ในคราวสมโภชพระแก้วมรกตและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปี พ.ศ.๒๓๕๒ ท่านขุนฯ เกิดความสนใจในอาหารที่นำมาจัดเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยในคราวนั้นนิมนต์พระสงฆ์ถึง ๒,๐๐๐ รูปมาในงานบุญที่ยิ่งใหญ่นี้ จึงได้ตามรอย ค้นคว้าประวัติศาสตร์วัฒนธรรมขนมอีกตำรับหนึ่งของคนไทยมานำเสนอ ในอีกมุมมอง ที่เชื่อว่ายังไม่มีที่ใดบันทึกไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เช่น Thaifoodmaster แห่งนี้ คราวนี้จึงขอนำเสนอขนมโบราณที่มีเอกลักษณ์เด่นคือมีทั้งแบบหวาน และแบบคาว มาให้รู้จักกันให้ลึกซึ้งตรงกับตำรับดั้งเดิมมากที่สุด ซึ่งได้แก่

“ขนมฝอย” หรือ “ขนมหันตรา”

Khanohm faawy or Khanohm handtraa - A Forgotten Thai Dessert and Snack ขนมฝอย หรือ ขนมหันตรา

ปัจจุบันนี้ ถึงแม้จะมีการรื้อฟื้น “ขนมหันตรา” ซึ่งเป็นขนมโบราณอย่างหนึ่ง มาให้สาธารณชนรู้จักกัน หลายปีแล้ว แต่เมื่อตรวจสอบกับหลักฐานข้อมูลแล้ว พบว่า มีความคลาดเคลื่อนจากของเดิมเล็กน้อย ทั้งนี้อาจจะเพราะการตีความของผู้ที่ศึกษานำมารื้อฟื้น หรือการถ่ายทอดต่อ ๆ กันมาก็ตาม แต่เมื่อมีความไม่ตรงและคลาดเคลื่อนจากบันทึก ท่านขุนฯ คงอยู่นิ่งเฉยไม่ได้ ต้องชี้หลักฐานอีกแง่มุมหนึ่งโดยละเอียด เพื่อจะได้ศึกษาต่อยอดชำระความถูกต้องกันต่อ ๆ ไป

“ขนมหันตรา” พอจะเป็นที่รู้จักกันบ้าง เพราะฟังดูชื่อแล้วสะดุดหู มากกว่าชื่อ “ขนมฝอย” ที่ปรากฏหลักฐานมาแต่เดิม แต่ก็ยังไม่เป็นที่แพร่หลายหรือนิยมทั่วไปนัก ทั้ง ๆ ที่เป็นขนมนิยมทำกันในงานบุญเลี้ยงพระ มาแต่ต้นรัตนโกสินทร์ ชื่อ “ขนมฝอย” ปรากฏหลักฐานที่บันทึกไว้เป็นลายลักษณ์อักษรครั้งแรก ก็ในบันทึก “จดหมายเหตุความทรงจำของกรมหลวงนรินทรเทวี” ในสมัยรัชกาลที่ ๓ ซึ่งก่อนหน้านั้นถึงจะมีจดหมายเหตุพูดถึงขนมในสมัยเก่าย้อนไปครั้งสุโขทัยหรืออยุธยามาบ้าง แต่ก็ไม่ปรากฏชื่อนี้ในวรรณกรรมหรือบันทึกใดเลย จึงอนุมานไว้ก่อนง่าน่าจะเริ่มมีมาครั้งต้นกรุงรัตนโกสินทร์ ไม่น่าเก่าไปถึงสมัยอยุธยา แต่จะมีรูปร่างลักษณะอย่างไรนั้น ก็ไม่ได้สืบทอดแพร่หลายแบบขนมฝอยทอง ทองหยิบ หม้อแกง สังขยา ฯลฯ ที่มีตำนานสืบทอดมายาวนานกว่า

จดหมายเหตุความทรงจำฯ บันทึกไว้ว่า ในงานสมโภชพระแก้วมรกตและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม “..ได้มีการตั้งเครื่องสำรับหวาน ประกอบด้วย ขนมไส้ไก่ ขนมฝอย ข้าวเหนียวแก้ว ขนมผิง กล้วยฉาบ ล่าเตียง หรุ่ม สังขยา ฝอยทอง และขนมตะไล” ซึ่ง “ขนมฝอย” มีลักษณะอย่างไรนั้น มามีบันทึกอีกครั้งก็ใน “ตำราแม่ครัวหัวป่าก์” ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์ เล่มที่ ๑ ลำดับที่ ๕๗ ว่าชื่อ “ขนมหันตรา” หรือ “ขนมฝอย” โดยทำมาจากถั่วเขียวหรือถั่วทอง กวนกับมะพร้าวขูด น้ำตาลเม็ด ปั้นแล้วชุบไข่ทอด ห่อด้วยฝอยไข่อีกครั้ง จึงได้รู้ว่า “ขนมฝอย” นั้นคือ “ขนมหันตรา” ฉะนั้นชื่อ “ขนมฝอย” จึงมีที่มาจากลักษณะ รูปลักษณ์ของขนมที่ห่อด้วยฝอย ซึ่งอาจได้ชื่อใหม่เป็น “ขนมหันตรา” ในภายหลัง แต่ที่มาของชื่อใหม่นั้นไม่เป็นที่ปรากฏหลักฐานแต่ประการใด มีแต่เพียงระบุว่า อาจใช้ถั่วชนิดอื่นเช่น ถั่วดำ ถั่วแดง ก็ได้ แต่นิยมทำด้วยถั่วเขียวมากกว่า

ที่มีการรื้อฟื้น “ขนมหันตรา” หรือ “ขนมฝอย” นี้ คงได้มาจากตำราแม่ครัวหัวป่าก์ ของท่านผู้หญิงเปลี่ยนเป็นแน่ แต่ที่พบ กลับเป็นขนมที่ทำด้วยถั่วกวนคล้ายการทำ “ขนมเม็ดขนุน” (หากปั้นเป็นรูปสี่เหลี่ยมหนากดเป็นรอยบุ๋มกลม ๆ ตรงกลาง โดยบางข้อมูลอ้างว่าเป็นตำรับของสมเด็จพระศรีสุริเยนทรามาตย์ ที่ทำเป็นรอยกดบุ๋มกลางเพื่อตราเอาไว้ จึงชื่อขนมหันตรา ไปก็มี แต่ก็หาได้มีหลักฐานยืนยัน จึงน่าจะเป็นการลากความเสียมากกว่า) ปั้นให้มีขนาดพอคำชุบไข่ลงทำให้สุกในน้ำเชื่อมร้อนแล้วนำมาห่อด้วยไข่โรยเป็นตารางอย่างเครื่องว่าง “ล่าเตียง” กระนั้น แล้วก็ยอมรับทำกันและถ่ายทอดอย่างนี้มานานหลายปีแล้วขอรับ

หากกลับย้อนไปศึกษาตำรับของท่านผู้หญิงเปลี่ยน อย่างละเอียด ก็จะเห็นความแตกต่าง และเมื่อศึกษาจากตำรับของท่านที่เรียบเรียงใหม่และจัดพิมพ์อีกในวาระต่อมา ก็พบว่า “ขนมฝอย” นี้ มิได้มีแต่ตำรับแบบเครื่องหวาน ยังมีแบบที่เป็นเครื่องคาวอีก เป็นเนื้อหมู กุ้ง ปรุงคล้ายไส้ขนมจีบ เป็นไส้ห่อด้วยฝอยไข่ ซึ่งท่านขุนฯ เชื่อว่า ท่านผู้หญิงเปลี่ยนน่าจะคิดประดิษฐ์ขึ้นใหม่ภายหลังตำรับเครื่องหวานดั้งเดิม เพราะใช้วัตถุดิบที่มีเข้ามาในสยามภายหลังสมัยต้นรัตนโกสินทร์มาประกอบตัวขนม คือ ขนมปังปอนด์ ดังนั้น จึงขอนำตำรับของท่านมาถ่ายทอดไว้ใหม่ในที่นี้อีกครั้ง โดยจะปรับภาษาให้เข้ากับปัจจุบันขึ้นมาอีกหน่อย เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น

this content is locked

เนื้อหานี้ถูกล็อค

สมัครสมาชิก เพื่ออ่านเพิ่มเติม. ลืมรหัสผ่าน? 

Incorrect username or password.

New account

Incorrect username or password.

“ขนมหันตรา” หรือ “ขนมฝอย” ตำรับเครื่องหวาน

ถั่วเขียวหรือถั่วทองหนัก ๔๒ บาท(ประมาณ ๗๕๐ กรัม) มะพร้าวปอกเปลือกดำออกขูดด้วยกระต่ายจีนหนัก ๑๐ บาท (ประมาณ ๑๕๐ กรัม) น้ำตาลทรายอย่างเม็ดหนัก ๖๐ บาท(ประมาณ ๑ กิโลกรัม) น้ำมันมะพร้าวใหม่ ๆ หรือ น้ำมันหมู ไข่เป็ด ๕ ฟอง

วิธีทำ
คั่วแล้วเลาะถั่วเขียวหรือถั่วทองให้แตกออกเป็น ๒ ซีก แช่น้ำจนพอง ล้างน้ำจนหมดเปลือกเหลือแต่เนื้อถั่วขาว หุงถั่วเหมือนหุงข้าวแบบเช็ดน้ำจนสุก อย่าให้เปียกนัก เอาน้ำตาลเชื่อมให้ข้นหน่อย กรองแล้วเทใส่กะทะทอง เอามะพร้าวขูดลงเคล้านวดให้เข้ากันดีกับถั่ว เทลงในกะทะน้ำตาล กวนให้ข้นเหนียวดีพอปั้นได้ อย่าให้แก่นักจะแข็งไป ปั้นเป็นอันสี่เหลี่ยมหนา ๆ คะเนอันสักพอดีคำ ตีไข่ขาวให้เข้ากันดีกับไข่แดง เอาถั่วที่ปั้นไว้ชุบไข่ลงทอดในน้ำมันมะพร้าวหรือน้ำมันหมูใหม่ ๆ จนหมด ราไฟให้อ่อน เทน้ำมันทอดให้เหลือนิดหน่อยเฉพาะอัน เอาไข่โรยเป็นฝอยจนเหลืองดี เอาขนมที่ทอดไว้นั้นวางลงบนไข่ครั้งละอัน เอาไม้แหลม ๆ เขึ่ยไข่ที่โรยไว้ปัดเข้าลงกลางสองข้างทีหนึ่ง แล้วเอาตลบขึ้นอีกสองข้างให้ฝอยอยู่ด้านบน (นี่คือข้อสังเกตของการทำขนมหันตราแบบปัจจุบันที่คลาดเคลื่อนกับตำรับเก่า เพราะไม่เหมือนการห่อไข่เป็นสี่เหลี่ยมแบบล่าเตียงที่มีการทำมาในช่วงปัจจุบันแต่อย่างใด : ผู้เขียน)

ถัาทอดด้วยน้ำมันมะพร้าว ขนมนั้นเอาไว้ได้นานวัน หากใช้น้ำมันหมูทอด ใช้ได้แต่เวลาที่จะรับประทานเร็ว เพราะหากทิ้งไว้นาน จะไม่หอม หรืออาจมีกลิ่นหืนได้เสร็จแล้วจัดลงชาม ตั้งไว้ให้รับประทาน

“ขนมฝอย” ตำรับแบบเครื่องว่างคาว

เครื่องปรุง – วิธีปรุง
กุ้งสด ๓ ตัว(ควรใช้กุ้งนาง :ผู้เขียน) ล้างให้สะอาดปอกแล้วสับปนไปกับมันกุ้ง เนื้อหมู ๑ ชิ้น ล้าวแล้วหั่นสับไปด้วยกัน (ให้หมูและกุ้งได้รวมกันประมาณ ๑ ถ้วยชา) รากผักชี กระเทียม พริกไทย โขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียด เคล้าเข้ากับกุ้งและหมูที่สับไว้ผสมน้ำปลาดีเล็กน้อย หัวหอม ๗ หัว ปอกแลัวซอย กระเทียม ๕ กลีบ ปอกแล้วซอย เมล็ดแตงโม แกะแล้วหั่นเป็นชิ้น ๆ ๒ ช้อนโต๊ะ ผักชี ล้างแล้วหั่น ๑ ช้อน น้ำตาลทราย ๑/๒ ช้อน น้ำปลาดี ๑ ช้อน

ผัดรากผักชีที่โขลกไว้กับน้ำมันหมูนิดหน่อย พอหอมผสมหัวหอทกระเทียมที่ซอยไว้ ผัดพอเข้ากันผสมกุ้งหมูที่สับไว้ลงผัดพอสุก ผสมน้ำปลาดี น้ำตาลทราย เมล็ดแตง ผัดต่อไปแล้วชิมดู รสเหมาะแล้ว โรยผักชี ตักลงจาน

ไข่เป็ด ๑ ฟอง ล้างแล้วต่อย ตีเบา ๆพอเข้ากัน ผสมแป้งสาลีสัก ๑/๒ ช้อนชา เคล้าให้เข้ากัน โรยลงในน้ำมันมาก ๆ ไฟอ่อน ๆ โรยให้เป็นตาข่ายจนไข่หนา เอียงกะทะให้น้ำมันไปข้างหนึ่ง ตักไส้หยอดลง ใช้ไม้แหลมเขี่ยให้บรรจบกลางทั้ง ๔ มุม วางลงบนกระดาษฟาง เพื่อดูดน้ำมัน

ขนมปังปอนด์ ฝานเป็นแผ่น ๆ แล้วหั่นเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมเขื่องกว่าไข่ที่ทำไว้เล็กน้อย ทอดให้เหลือง หยิบเครื่องที่ทำไว้วางบนขนมปัง รับประทานได้

“ขนมหันตรา” หรือ “ขนมฝอย” ทั้งตำรับคาวและหวาน ของท่านผู้หญิงเปลี่ยน ภาสกรวงษ์ ก็มีดังนี้แล ใครใคร่ศึกษาเพิ่มเติม ฤๅจักลองทำตามต้นตำรับให้แยบคายกว่าที่เคยเห็นในปัจจุบัน ก็จงโปรดลองทำและถ่ายทอดไว้ให้คนรุ่นหลังให้ถูกต้องสืบไปเถิด !!!

สูตรทำขนมฝอย หรือ ขนมหันตรา
โดย หนุมาน และ ฐาปกร เลิศวิริยะวิทย์ (เชฟกร)
“ขนมฝอย” หรือ “ขนมหันตรา” – อนุสนธิจากตำนานแกงมัสมั่น ที่ Thaifoodmaster ได้นำเสนอไปแล้วนั้น ในบริบทหนึ่งกล่าวถึงหมายรับสั่งของพระบามสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกที่ให้ พระยาจุฬาราชมนตรี ผู้นำมุสลิม จัดทำอาหารเลี้ยงพระและผู้คน ในคราวสมโภชพระแก้วมรกตและวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ในปี พ.ศ.๒๓๕๒ ท่านขุนฯ เกิดความสนใจในอาหารที่นำมาจัดเลี้ยงเป็นอย่างยิ่ง ด้วยในคราวนั้นนิมนต์พระสงฆ์ถึง ๒,๐๐๐ รูปมาในงานบุญที่ยิ่งใหญ่นี้ จึงได้ตามรอย ค้นคว้าประวัติศาสตร์วัฒนธรรมขนมอีกตำรับหนึ่งของคนไทยมานำเสนอ ในอีกมุมมอง ที่เชื่อว่ายังไม่มีที่ใดบันทึกไว้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์เช่น Thaifoodmaster แห่งนี้ คราวนี้จึงขอนำเสนอขนมโบราณที่มีเอกลักษณ์เด่นคือมีทั้งแบบหวาน และแบบคาว มาให้รู้จักกันให้ลึกซึ้งตรงกับตำรับดั้งเดิมมากที่สุด ซึ่งได้แก่ “ขนมฝอย” หรือ “ขนมหันตรา”
No ratings yet

Add your own recipe notes

You must be a member to use this feature

Add to Collection Add to Shopping List
Prep Time 1 hour
Cook Time 2 hours
Total Time 3 hours
Course Dessert
Cuisine Thai
Servings 24

Ingredients
  

ส่วนผสมขนมฝอยหวาน

  • ถั่วทอง แช่น้ำค้างคืน 2 ถ้วย
  • มะพร้าวทึนทึกขูดฝอ 1/2+1/3 ถ้วย
  • น้ำเชื่อม1/2 ถ้วย

ส่วนผสมขนมฝอยคาว

  • เนื้อกุ้ง 1 ถ้วย
  • เนื้อหมูสามชั้น 1/2 ถ้วย
  • รากผักชี 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียม 1 ช้อนโต๊ะ
  • พริกไทยป่น 1/2 ช้อนชา + ดหน่อย
  • น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
  • กระเทียมไทยซอย1/4 ถ้วย
  • หอมแดงซอย 1/2 ถ้วย
  • น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนชา
  • เม็ดแตงโมปอกและหั่น ช้อนโต๊ะ
  • ผักชี 1 ช้อนโต๊ะ
  • ขนมปังปอนด์
  • ไข่แดงไข่เป็ด 3 ฟอง
  • ขนมปังปอนด์

ส่วนผสมข่ฝอยแผ่น

  • ไข่เป็ด 3 ฟอง
  • แป้งอเนกประสงค์ 1 1/2 ช้อนชาs
  • เกลือป่น นิดหน่อย

Instructions
 

วิธีทำไส้หวาน

  • นำถั่วทองแช่น้ำค้างไว้หนึ่งคืน จากนั้นนำไปหุงให้สุก
  • ทำน้ำเชื่อมโดยละลายน้ำเปล่ากับน้ำตาลทรายขาว ในปริมาณเท่า ๆ กัน
  • ขูดมะพร้าวทึนทึกโดยใช้กระตายจีน
  • นวดถั่วทองที่สุกแล้วกับมะพร้าวขูดให้รวมเป็นเนื้อเดียวกัน
  • ตั้งกระทะทองเหลืองไฟอ่อน ใส่น้ำเชื่อมและถั่วทองที่นวดไว้แล้วลงไป
  • กวนไปมาโดยใช้ไฟอ่อนไปเรื่อย ๆ
  • ปั้นถั่วกวนที่ได้เป็นรูปสี่เหลี่ยมขนาดประมาณ 3×3 เซนติเมตร
  • จุ่มถั่วกวนลงไปไข่แดงไข่เป็ด แล้วนำไปทอดจนเหลือง
  • วางลงไปกระดาษซับน้ำมันเสร็จแล้วพักเอาไว้

วิธีทำไส้คาว

  • โขลกรากผักชี กระเทียม พริกไทย เข้าด้วยกัน
  • แกะเนื้อกุ้งออก จากนั้นใช้มีดตีเนื้อกุ้งให้แบน แล้วเอามันกุ้งที่เก็บเอาไว้ใส่รวมลงไป
  • สับเนื้อกุ้งให้พอหยาบ
  • สับเนื้อหมูสามชั้น
  • ใส่รากผักชีกระเทียมพริกไทยที่โขลกแล้วลงไปเล็กน้อยใสน้ำกุ้งและเนื้อหมู สับต่อไปให้เข้ากัน
  • ใส่น้ำปลาลงไป
  • ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันลงไป นำรากผักชีที่โขลกแล้วใส่ลงไปผัดให้หอม
  • ใส่เนื้อหมูสับและกุ้งสับลงไปผัด
  • ผัดต่อไปจนสุก
  • ใส่กระเทียมไทยซอยลงไป
  • ใส่หอมแดงซอยลงไป
  • ใส่น้ำตาลทรายลงไป
  • ใส่น้ำปลาลงไป
  • ใส่พริกไทยป่นลงไป
  • ใส่เม็ดแตงโมลงไป
  • ใส่ผักชีซอยลงไป
  • ผัดให้เข้ากันเสร็จแล้วพักเอาไว้

วิธีทำไข่ฝอยแผ่น

  • ตีไข่เป็ดเบา ๆ จากนั้นนำไปกรอง
  • ตั้งกระทะไฟกลางใส่น้ำมันลงไป เมื่อกระทะร้อนแล้วให้ปิดไฟลง จากนั้นใช้นิ้วมือจุ่มลงไปในไข่เป็ดที่ตีไว้แล้ว โรยไข่ลงไปกระทะให้เป็นเส้น ๆ ไปมาจนเป็นแผ่นบาง ๆ
  • เปิดไฟแล้วทอดแผ่นไข่จนสุก
  • ปิดไฟ นำไส้หวานวางลงไป
  • หรือ นำไส้คาววางลงไป
  • พับไข่ด้านข้างเข้ามาตรงกลางทั้งสองด้าน
  • พับปลายไข่ที่เหลืออีกสองด้านเข้ามารวมกันตรงกลางให้มีลักษณะเป็นห่อe
  • ลักษณะไข่ฝอยแผ่นที่พับเรียบร้อยแล้ว
  • ขนมฝอยไส้คาววางไว้บนขนมปังทอด
  • ขนมฝอยไส้หวาน
Tried this recipe?We’d love to see it – tag it #THAIFOODMASTER on Instagram! Please leave a comment to let us know how it was!

Get Access – Join Thaifoodmaster Today

Practical and kitchen-tested recipes with a mix of theory, history, psychology, and Siamese culture tidbits.

  • Get access to everything right away. Unlock more than 50 Masterclasses, over 250 recipes and Articles

    Access to Thaifoodmaster’s constantly growing library of prime professional classes, articles, recipes and videos on Siamese culinary topics, available nowhere else in English.

  • GET EXTRA - New Monthly Masterclasses and Recipes

    Gain access to NEW MONTHLY masterclasses as they become available. 

  • 1-1 support from Hanuman

    1-1 support from Hanuman to help you achieve your professional Thai culinary goals

  • Live Q&A Sessions

    The opportunity to join a monthly live two-hour videoconference where I can answer your questions.

  • Great Value!

    one year access for the price of 3 days in-person training.

You will get everything you need to:

  • To Get inspired

    When you design or build a new menu for an event or restaurant or even prepare for dinner with friends.

  • To Satisfy your curiosity.

    Finally !

  • To Master Your Craft

    Master your Thai cooking skills and expand your repertoire.

It is truly brilliant with a revolutionary approach introducing aspects and concepts never broached by cookbooks.
Ian Westcott
Ian Westcott
Sourcing Wines for Discerning Private Clients
0 0 votes
Article Rating
Subscribe
Notify of

Previous:

Next:

0
Would love your thoughts, please comment.x
()
x
Get a Free copy of my eBook "49 Classic Thai Stir Fry Dishes"

Subscribe to our newsletter that will keep you up to date with stories and events taking place at Thaifoodmaster!